Web Analytics
No module Published on Offcanvas position

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 954

เก็บยาอย่างไรให้ยังคงเป็นยา

 

 

เก็บยาอย่างไรให้ยังคงเป็นยา..แม้ว่าจะเป็นภาษาที่ดูกำกวมแต่แฝงไปด้วยนัยยะ 

            ยา หรือ เภสัชภัณฑ์  วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ในการวินิจฉัย บำบัด บรรเทา รักษา หรือป้องกันโรค หรือความเจ็บป่วยของมนุษย์  ซึ่งมีทั้งแบบกิน  ทา  ฉีด  หรืออม  เพื่อให้สารออกฤทธิ์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ  ซึ่งตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตตลอดจนการเก็บรักษาจำเป็นต้องคงสภาพของยาหรือเภสัชภัณฑ์ไว้เสมอ  เพราะอาจเสื่อมสภาพได้หากได้รับปัจจัยต่างๆ โดยการเสื่อมสภาพแบ่งเป็น 

  1. การเสื่อมสภาพทางเคมี ทำให้ปริมาณตัวยาสำคัญลดลง และการเพิ่มขึ้นของสารสลายตัว
  2. การเสื่อมสภาพทางกายภาพ ทำให้เกิดความผิดปกติของรูปร่าง สี กลิ่น รสชาติ ความใสหรือขุ่น หรือการเกิดตะกอน
  3. การเสื่อมสภาพทางชีวภาพ ทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อเกินระดับปลอดภัย

            โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสื่อมสภาพของยาหรือเภสัชภัณฑ์ส่วนมากจะมาจากสิ่งแวดล้อมเช่น  อุณหภูมิ  แสง  แก๊สออกซิเจน  แก๊สคาร์บอนไดออกไซค์  ความชื้น เป็นต้น  ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงการเสื่อมสภาพของยาได้โดยการเก็บรักษาอย่างถูกวิธีตามฉลากที่ระบุไว้ข้างบรรจุภัณฑ์ของยานั้นๆ

            การสังเกตุว่ายาเสื่อมสภาพหรือไม่สามารถสังเกตุได้ง่ายๆ ดังนี้

  • สังเกตุจากวันหมดอายุที่ระบุอยู่บนบรรจุภัณฑ์
  • สังเกตุจากสีของยา ลักษณะของเม็ดยามีสีไม่สม่ำเสมอ  เม็ดยาแตกหรือบวม เป็นต้น
  • สังเกตุจากกลิ่นที่แปลกไปจากเดิม หรือ มีกลิ่นเหม็นผิดปรกติ
  • สังเกตุจากการจับตัวกันเป็นก้อนของยา

 

            การเก็บรักษายาโดยทั่วไป คือ

  • เก็บในภาชนะที่แห้งปิดสนิท ในห้องที่มีการถ่ายเทอากาศได้สะดวก
  • เก็บในที่มืด ควรเก็บยาในตู้ทึบ หรือเก็บในภาชนะทึบแสง
  • เก็บในที่เย็น หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีอากาศร้อน

 

            แต่ก่อนที่ยา  หรือ เภสัชภัณฑ์  จะถึงมือผู้บริโภคนั้น  ผู้ผลิตก็ต้องมีกระบวนการในการคงสภาพของยาหรือเภสัชภัณฑ์เช่นเดียวกัน  หนึ่งในขั้นตอนสำหรับการคงสภาพยาหรือเภสัชภัณฑ์คือการใช้แก๊สไนโตรเจนในการเก็บรักษาสำหรับยาที่ทำปฏิกิริยากับแก๊สออกซิเจนได้ง่าย   เช่น  catecholamines (dopamine), morphine,  vitamin A, unsaturated free fatty acid, pyrantel, pyrimidine  เป็นต้น  ในกระบวนการผลิตเมื่อยานั้นๆ  ผลิตเรียบร้อยแล้วจะต้องถูกเก็บภายใต้แก๊สไนโตรเจนที่ปราศจากแก๊สออกซิเจน  เพื่อให้ยาไม่เสื่อมสภาพ  และจำหน่ายถึงมือผู้บริโภคได้อย่างปลอดภัย 

            สำหรับแก๊สไนโตรเจนที่ใช้ในการเก็บรักษายาจำเป็นจะต้องมีความบริสุทธิ์สูง  มีปริมาณแก๊สออกซิเจนปนเปื้อนน้อยที่สุด  ตาม European Pharmacopoeia การวิเคราะห์ Nitrogen, Low-oxygen  สามารถวิเคราะห์ความบริสุทธิ์ของแก๊สในโตรเจนได้โดยใช้เทคนิคแก๊สโครมาโทกราฟฟี  ที่เกณฑ์กำหนดของแก๊สปนเปื้อนอื่นๆ ไม่เกิน 0.5 % V/V  โดยใช้สภาวะของเครื่องมือในการวิเคราะห์ดังนี้

Injector : Gas sampling valve

Column : Molecular sieve (0.5nm) 

Detector : TCD

Carrier gas : Helium

ตัวอย่างโครมาโทแกรมที่ได้จากการวิเคราะห์ด้วยคอลัมน์ Molecular sieve (0.5nm) 

 

            เครื่องแก๊สโครมาโทกราฟเป็นเครื่องที่ใช้เทคนิคการแยกสารผสมออกจากกันและทำการตรวจวัด  ทำให้สามารถวิเคราะห์ชนิดและปริมาณของสารได้  โดยในการวิเคราะห์ความบริสุทธิ์ของแก๊สไนโตรเจนนั้นตัวอย่างอยู่ในสถานะแก๊ส  ดังนั้นการนำตัวอย่างเข้าเครื่องจำเป็นต้องใช้ส่วนฉีดสารชนิด Gas Sampling Valve เพื่อให้ได้ความแม่นยำในการวิเคราะห์และลดความผิดพลาดในการสุญเสียตัวอย่างระหว่างฉีดได้  และยังมีระบบฉีดตัวอย่างได้อย่างอัตโนมัติทำให้การวิเคราะห์สามารถทำได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น  หากต้องการข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม

คลิก http://www.scispec.co.th/GC.html