Web Analytics
No module Published on Offcanvas position

การหาปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด

 

     แอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมสำคัญใน ผลิตภัณฑ์หลายชนิดโดยเฉพาะ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น สุรา เบียร์ วิสกี้ บรั่นดี เป็นต้น ซึ่งปริมาณแอลกอฮอล์ที่ใช้เป็นส่วนผสมก็จะแตกต่างกันออกไป แอลกอฮอล์มีลักษณะเป็นของเหลวใส ไม่มีสี ซึ่ง การบริโภค ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายออกฤทธิ์กดประสาท มีผล เฉียบพลันและเรื้อรัง

    ซึ่งการหาปริมาณแอลกอฮอล์มีอยู่ด้วยกันหลายวิธีซึ่งการวิเคราะห์ปริมาณของแอลกอฮอล์ในเลือดเป็นหนึ่งในการทดสอบที่พบบ่อยในกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อวัดระดับความมึนเมาและเพื่อวัดประสิทธิภาพที่ลดลงของการขับขี่ โดยปรกติในหลายประเทศห้ามบุคคลที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนดขับขี่ยานยนต์ ในประเทศไทย ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 21 (พ.ศ. 2560) ระดับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดที่ถือว่าผิดกฎหมายกรณีตรวจวัดจากเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ วิธีการตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นวิธีการตรวจยืนยันที่น่าเชื่อถือ จะใช้เทคนิค Gas Chromatography (GC) ร่วมกับ Headspace และใช้ตัวตรวจวัดชนิด Flame ionization (FID)

การสกัดตัวอย่างด้วยเทคนิคเฮดสเปซ (Headspace)           

          เป็นเทคนิคการเตรียมตัวอย่าง ที่นิยมใช้สำหรับของแข็งหรือของเหลวที่สามารถระเหยได้ โดยขั้นตอนการทำงานเริ่มจากนำสารตัวอย่างใส่ในขวดที่ปิดสนิท แล้วให้ความร้อนกับตัวอย่างเพื่อให้สารที่ต้องการวิเคราะห์ ระเหยกลายเป็นไอแยกออกจากตัวอย่าง จากนั้นนำไอระเหยของสารเข้าเครื่องแก๊สโครมาโทกราฟเพื่อแยกสารผสมสมนั้นออกจากกัน

 

รูปแสดงขั้นตอนการสกัดตัวอย่างด้วยเทคนิคเฮดสเปซ

 

 

 ขั้นตอนการเก็บตัวอย่างเพื่อวิเคราะห์หาปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด

1) เก็บตัวอย่างเลือดภายใน 2 ชั่วโมงหลังดื่มแอลกอฮอล์

2) ทำความสะอาดบริเวณผิวหนังที่จะเจาะเลือดด้วย Providine หรือ Betadine (ห้ามใช้เอทานอลและไอโซโพรพานอล)

3) เก็บเลือดปริมาณ 2 มิลลิลิตร ใส่ในหลอด Sodium Fluoride ซึ่งป้องการกระบวนการเปลี่ยนแอลกอฮอล์เป็นน้ำตาล ปิดจุกให้แน่น และผสมให้เข้ากัน โดยการพลิกคว่ำหลอด กลับไป-มา 8-10 ครั้ง และนำส่งห้องปฏิบัติการทันที(สามารถเก็บได้ที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส แต่ไม่ควรเกิน 2 ชม.)

 

ผลจากการวิเคราะห์ด้วยเทคนิคGas Chromatography (GC) ร่วมกับ Headspace และใช้ตัวตรวจวัดชนิด Flame ionization (FID) 

 

รูปโครมาโทแกรมของเอทานอลและ2-โพรพานอล (IS)

 

 

Wannika Pannont