Web Analytics
No module Published on Offcanvas position

มารู้จักโมโนโคลนอลแอนติบอดี้กัน

**

โมโนโคลนอลแอนติบอดี้ (mAbs) ได้ชื่อว่าเป็นโปรตีนที่สามารถเป็นชีววัตถุเพื่อการรักษาโรคได้ ในปัจจุบันได้ถูกนำมารักษาโรคบ้างแล้ว เนื่องจากความสามารถในการจำเพาะต่อตำแหน่งเนื้อเยื่อที่ศึกษา โครงสร้างของโมโนโคลนอลแอนติบอดี้นั้นมักพบว่าเป็นแบบเฮทเทอโรจีนัส

ตัวอย่างเช่นการนำโมโนโคลนอลแอนติบอดี้มาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งหรือโรคอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน

ทำไมต้องเป็นโมโนโคลนอลแอนติบอดี้ ?

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาการรักษาโรคเหล่านี้ยังไม่ได้รับผลการรักษาที่น่าพึงพอใจ อีกทั้งการทำเคมีบำบัด มักก่อให้เกิดผลข้างเคียงแก่ร่างกายผู้ป่วย ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการไม่จำเพาะต่อเซลล์ที่ต้องการรักษาของการทำเคมีบำบัด ดังนั้นทั้งเซลล์ที่ผิดปกติและเซลล์ปกติจึงได้รับผลกระทบไปด้วยทั้งหมด

ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีคุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่งคือ เป็นระบบที่มีความจำเพาะเจาะจงต่อสิ่งแปลกปลอมหรือแอนติเจน สามารถจดจำและเข้าทำลายสิ่งแปลกปลอมดังกล่าวได้อย่างแม่นยำ ทางการแพทย์เลยนำหลักการดังกล่าวมาผลิตยารักษาโรค กลุ่มยานั้นคือกลุ่มยาโมโนโคลนอลแอนติบอดี้นั่นเอง

กลุ่มยาโมโนโคลนอลแอนติบอดี้ จะทำหน้าที่ต่อต้านสิ่งแปลกปลอมของร่างกายอย่างจำเพาะเจาะจง ตัวโมโนโคลนอลแอนติบอดี้ที่ได้มาจากเซลล์ภูมิคุ้มกันจะถูกนำมาผ่านกระบวนการโคลนนิ่ง เพื่อให้ได้เซลล์ที่มีลักษณะเดียวกันจำนวนมากและมีความสามารถในการหลั่งสารแอนติบอดี้จำเพาะออกมา โมโนโคลนอลแอนติบอดี้แต่ละชนิดนั้นมีความจำเพาะต่อเซลล์เป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป

ปัจจุบัน มีการพัฒนายาในกลุ่มโมโนโคลนอลแอนตีบอดีมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง และโรคที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันชนิดต่างๆ เช่น โรคภูมิต้านตัวเอง (โรคออโตอิมูน) โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคสะเก็ดเงิน เป็นต้น อย่างไรก็ดี ยาในกลุ่มนี้ส่วนมากยังเป็นยาใหม่ จึงมีราคาสูง และผลข้างเคียงของยาอาจยังไม่ชัดเจนในทุกแง่มุม การใช้ยาในกลุ่มนี้จึงควรใช้ในความควบคุมของแพทย์เฉพาะทางอย่างเคร่งครัด

ระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย เป็นระบบหนึ่งของร่างกายที่ทำหน้าที่ในการปกป้องร่างกายจากการรุกรานของสิ่งแปลกปลอมรวมถึงเชื้อโรคสารพัดทั้งจากภายในและภายนอกร่างกาย การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันมีความซับซ้อนและทำงานร่วมกับเม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆ

แอนติเจนหรือสารก่อภูมิต้านทาน อาจเป็นได้ทั้งเชื้อโรค รวมถึงเซลล์มะเร็ง เมื่อเข้าสู่ระบบร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันจะถูกกระตุ้นและนำไปสู่การกำจัดสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้น

ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดคือ

  • ระบบภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิด (Innate Immunity): เป็นระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานทั่วไป ไม่จำเพาะเจาะจงต่อแอนติเจน เช่น ระบบภูมิคุ้มกันทางกายภายนอก อย่างเช่น ผิวหนัง เยื่อเมือก และมีเม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่แบบไม่จำเพาะเจาะจงในการทำลายสิ่งแปลกปลอม
  • ระบบภูมิคุ้มกันแบบรับมา (Adaptive Immunity): ที่เป็นระบบภูมิคุ้มกันซึ่งมีการทำงานที่เจาะจงกับแอนติเจนในแต่ละชนิด

เมื่อทำลายสำเร็จแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันแบบรับมาจะจดจำแอนติเจนนั้นๆไว้ หากมีการรุกรานในรูปแบบเดิม ก็จะสามารถตอบสนองกลไกการทำงานได้อย่างเร็วยิ่งขึ้น

หากมีการรุกรานในอนาคต ระบบภูมิคุ้มกันแบบรับมา ก็จะสามารถตอบสนองทำลายแอนติเจนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันแบบรับมา ถูกกำหนดโดยเซลล์เม็ดเลือดขาว 2 ชนิดคือ ชนิด “ทีลิมโฟไซต์ (T lymphocyte)” และชนิด “บีลิมโฟไซต์ (B lymphocyte)”

การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโดยเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด “ทีลิมโฟไซต์” จะสร้างตัวรีเซพเตอร์ แบบจำเพาะแอนติเจนบนเยื่อหุ้มเซลล์ และเข้าทำลายแอนติเจนเมื่อได้รับการกระตุ้น ส่วนชนิด”บีลิมโฟไซต์”เป็นการทำงานแบบใช้แอนติบอดดี หรือการป้องกันร่างกายผ่านการสร้างสารแอนติบอดีหรือสารภูมิต้านทาน ซึ่งเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมภายนอกเข้ามาและทำปฏิกิริยากับ “บี ลิมโฟไซต์” จะก่อเกิดการสร้างสารภูมิต้านทานหรือแอนตีบอดีขิ้นมา หลังจากนั้นเซลล์ “บี ลิมโฟไซต์”จะแบ่งเซลล์ให้เกิดเซลล์ลูก (Daughter cells) ซึ่งมีคุณสมบัติในการสร้างสารภูมิต้านทานได้เหมือนเซลล์แม่ โดยเรียกสารภูมิต้านทานที่สร้างขึ้นมาจากเซลล์ลูกว่า “โมโนโคลนอลแอนตีบอดี (Monoclonal Antibodies) หรือ สารภูมิต้านทานเฉพาะที่สร้างจากเซลล์ลูกแต่มีคุณสมบัติเหมือนเซลล์แม่” ซึ่งมีการนำวิธีการดังกล่าวมาใช้ในการวิจัยและพัฒนาเป็นยาต่างๆที่มีคุณสมบัติเฉพาะเจาะจงต่อตัวรับอีกด้วย

ตัวอย่างเทคโนโลยีโมโนโคลนอลแอนติบอดี้ที่ถูกพัฒนามาเป็นยารักษาโรคได้แก่

Trastuzumab สำหรับรักษามะเร็งเต้านม

Abciximab สำหรับรักษาโรคหลอดเลือดและหัวใจ

Alemtuzumab และ Ofatumumab สำหรับรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว

Panitumumab สำหรับรักษามะเร็งลำใส้ใหญ่

**ชื่อตัวยาโมโนโคลนอลจะลงท้ายด้วย -umab, -zumab, -ximab และ -mab ซึ่งเรียงตามลำดับโครงสร้างที่ใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด โดย -umab ถือว่าเสมือนกำเนิดจากบี ลิมโฟไซต์มากที่สุด โอกาสจะเกิดการต้านยาก็ย่อมน้อยที่สุดเช่นกัน

นี่เป็นส่วนน้อยที่ได้ยกตัวอย่างมาให้เห็นภาพ ปัจจุบันธุรกิจยาโมโนโคลนอลเป็นธุรกิจการแพทย์ขนาดใหญ่ มีตัวยาที่ได้รับการรับรองมากมายหลายสิบชนิด มีทั้งรูปแบบฉีด หยด ชนิดผง เป็นต้น

ทางผู้เขียนก็หวังว่าทางท่านผู้อ่านน่าจะได้รู้จัก กับโมโนโคลนอลแอนติบอดี้กันบ้างแล้ว ในบทถัดไป จะกล่าวถึงเทคโนโลยีของการวิเคราะห์โมโนโคลนอลแอนติบอดี้กันครับ

 

Pongsagon Pothavorn