Web Analytics
No module Published on Offcanvas position

เทคนิคการใช้ DNA ของเซลล์มะเร็งที่ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือด ในการตรวจโรคมะเร็ง

 เทคนิคการใช้ DNA ของเซลล์มะเร็งที่ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือด (Liquid Biopsy component) 

 

Liquid Biopsy คืออะไร

Liquid Biopsy วิธีการตรวจวิเคราะห์สารพันธุกรรมหรือสารชีวภาพ (biomarkers) ในของเหลวของร่างกาย เช่น เลือด น้ำไขสันหลัง หรือปัสสาวะ เพื่อใช้วินิจฉัยหรือเฝ้าติดตามโรค โดยเฉพาะโรคมะเร็ง มีบทบาทสำคัญในกระบวนการรักษามะเร็ง โดยมีความสามารถพิเศษในการตรวจหาและติดตามความคืบหน้าของโรคได้ โดยไม่ต้องใช้การตรวจมะเร็งด้วยการตัดชิ้นเนื้อแบบดั้งเดิม (Traditional Tissue Biopsies) ซึ่งเป็นวิธีการที่อาจทำให้เกิดความเจ็บปวดหรือภาวะแทรกซ้อน ได้ข้อมูลเพียงจุดเดียวของเนื้องอก ซึ่งอาจไม่สะท้อนถึงความหลากหลายทางพันธุกรรมทั้งหมดของเนื้องอกนั้น และอาจไม่สามารถทำได้บ่อย ๆ โดยเฉพาะในผู้ป่วยระยะสุดท้าย

 

Liquid Biopsy มีบทบาทดังนี้

  1. การตรวจพบและวินิจฉัยโรค: การตรวจเลือดสามารถวิเคราะห์ตัวชี้วัดในเลือด เช่น DNA ของเนื้องอกที่หมุนเวียนอยู่ในเลือด (circulating tumor DNA หรือ ctDNA) หรือเซลล์เนื้องอกที่หมุนเวียน (circulating tumor cells หรือ CTCs) ถุงที่เซลล์ปล่อยออกมาและมีข้อมูลทางพันธุกรรม (Extracellular Vesicles หรือ EVs) ไมโครอาร์เอ็นเอMicroRNA หรือ miRNA) และโปรตีน เพื่อช่วยตรวจพบมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งอาจเร็วกว่าวิธีถ่ายภาพทางการแพทย์แบบดั้งเดิม
  2. การติดตามผลการรักษา: Liquid biopsy ช่วยให้แพทย์สามารถติดตามผลของการรักษามะเร็งได้แบบเรียลไทม์ เช่น การวิเคราะห์ระดับ ctDNA เพื่อดูว่าขนาดของเนื้องอกลดลงหรือไม่ หรือมีการเกิดการกลายพันธุ์ที่อาจทำให้ดื้อยาหรือไม่
  3. การรักษาเฉพาะบุคคล: ข้อมูลทางพันธุกรรมที่ได้จาก liquid biopsy สามารถช่วยออกแบบวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละคนได้ เช่น คัดเลือกวิธีการรักษาแบบมุ่งเป้าตามการกลายพันธุ์ที่พบใน ctDNA
  4. การตรวจสอบการเหลืออยู่ของโรคหรือการกลับมาเป็นซ้ำ: หลังการรักษา liquid biopsy สามารถตรวจพบโรคที่ยังเหลืออยู่น้อยมากหรือสัญญาณการกลับมาเป็นซ้ำได้ก่อนที่จะมีอาการหรือการวินิจฉัยด้วยภาพถ่ายทางการแพทย์
  5. การพยากรณ์ผลการตอบสนองต่อการรักษา: Liquid biopsy สามารถช่วยพยากรณ์ว่าผู้ป่วยจะตอบสนองต่อวิธีการรักษาใดได้ดี ซึ่งช่วยให้สามารถปรับแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม

ความสามารถในการให้ข้อมูลสำคัญโดยไม่ต้องใช้วิธีที่รุกรานทำให้ liquid biopsy เป็นเครื่องมือสำคัญในกระบวนการรักษามะเร็ง และยังเป็นพื้นที่วิจัยที่น่าตื่นเต้นที่มีศักยภาพจะนำไปใช้ในการรักษาได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น

 

ข้อดีของ Liquid Biopsy

✔️ ไม่ต้องเจาะชิ้นเนื้อ (Minimally Invasive)
✔️ ติดตามผลได้บ่อยครั้ง (Real-time Monitoring)
✔️ ตรวจจับมะเร็งระยะเริ่มต้นได้เร็ว
✔️ ช่วยเลือกแนวทางรักษาที่เหมาะสม (Personalized Medicine)

 

 ใช้ตรวจอะไรได้บ้าง?

  • การวินิจฉัยและติดตามโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งปอด เต้านม ลำไส้ใหญ่
  • ตรวจหาโรคทางพันธุกรรม
  • ประเมินการตอบสนองต่อการรักษามะเร็ง
  • คัดกรองโรคบางประเภท

Liquid biopsy กำลังเป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในวงการแพทย์ยุคใหม่ 💉

เทคนิคการใช้ Circulating Tumor DNA (ctDNA) เป็นส่วนหนึ่งของ Liquid Biopsy ในการจัดการมะเร็ง

การใช้ circulating tumor DNA (ctDNA) เป็นส่วนหนึ่งของ liquid biopsy ถือเป็นแนวทางที่กำลังได้รับความสนใจในวงการการแพทย์เพื่อการตรวจคัดกรองและติดตามผลการรักษามะเร็ง โดย ctDNA คือ DNA ที่หลุดออกมาจากเซลล์มะเร็งและพบในกระแสเลือดของผู้ป่วย. การใช้ ctDNA ในการวิเคราะห์จะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของมะเร็งได้โดยไม่ต้องใช้การตรวจทางร่างกายที่รุกราน (invasive) นี่คือเทคนิคหลัก ๆ ที่ใช้ ctDNA ในการจัดการมะเร็ง

  1. การตรวจคัดกรองมะเร็ง (Cancer Screening)
  • ctDNA สามารถใช้ในการตรวจคัดกรองมะเร็งในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงหรือในผู้ที่ยังไม่มีอาการแสดงชัดเจน โดยการตรวจหา biomarker หรือการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่เกิดจากเซลล์มะเร็งที่หลุดออกมาในเลือด การใช้ ctDNA เป็นเครื่องมือช่วยในการตรวจจับมะเร็งตั้งแต่ระยะแรกสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาหากตรวจพบมะเร็งในระยะที่ยังไม่มีการลุกลาม
  1. การติดตามผลการรักษา (Monitoring Treatment Response)
  • การตรวจสอบ ctDNA สามารถใช้ในการติดตามการตอบสนองต่อการรักษามะเร็ง เช่น การให้เคมีบำบัด การรักษาด้วยยาต้านมะเร็งชนิดต่าง ๆ หรือการผ่าตัด เมื่อเนื้องอกหดตัวหรือเซลล์มะเร็งถูกทำลาย ปริมาณของ ctDNA จะลดลงในกระแสเลือด ซึ่งสามารถใช้เป็นสัญญาณว่าผลการรักษามีประสิทธิภาพ.
  1. การตรวจจับการกลับมาของมะเร็ง (Detecting Minimal Residual Disease - MRD)
  • หลังจากการรักษามะเร็ง, ผู้ป่วยอาจมีเซลล์มะเร็งที่เหลืออยู่ในร่างกายแม้ว่าเนื้องอกจะหดตัวไปแล้ว การตรวจหา ctDNA ที่เหลืออยู่ในเลือดสามารถช่วยตรวจจับการกลับเป็นของมะเร็งได้ในระยะแรก ทำให้สามารถดำเนินการรักษาเพิ่มเติมได้ทันเวลา
  1. การทำนายการพัฒนาและความรุนแรงของมะเร็ง (Predicting Disease Progression and Prognosis)
  • การเปลี่ยนแปลงใน ctDNA สามารถบ่งชี้ถึงการพัฒนาของมะเร็งหรือการดื้อยา ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถคาดการณ์ความรุนแรงของมะเร็งในอนาคตและปรับแผนการรักษาให้เหมาะสม การทดสอบ ctDNA ช่วยในการเลือกการรักษาที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละบุคคล
  1. การตรวจจับมะเร็งในรูปแบบที่ไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยวิธีอื่น (Early Detection of Hard-to-Detect Cancers)
  • บางประเภทของมะเร็ง เช่น มะเร็งตับอ่อนหรือมะเร็งรังไข่, มักจะไม่แสดงอาการจนถึงระยะที่มะเร็งมีการลุกลาม. การใช้ ctDNA ในการตรวจจับมะเร็งเหล่านี้สามารถช่วยให้การตรวจพบเกิดขึ้นในระยะเริ่มต้น ทำให้มีโอกาสในการรักษาที่ดีขึ้น
  1. การใช้ ctDNA เพื่อศึกษาการพัฒนาของมะเร็ง (Tumor Evolution)
  • การศึกษาการเปลี่ยนแปลงใน ctDNA ในระหว่างการรักษาสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงของเซลล์มะเร็ง ข้อมูลนี้สามารถช่วยให้นักวิจัยและแพทย์เข้าใจกลไกการดื้อยาของมะเร็งและพัฒนาวิธีการรักษาใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การใช้ circulating tumor DNA (ctDNA) เป็นส่วนหนึ่งของ liquid biopsy นั้นถือเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพสูงในการจัดการมะเร็งในหลายด้าน ทั้งการตรวจคัดกรอง, การติดตามผลการรักษา, การตรวจจับการกลับเป็นของมะเร็ง, การทำนายการพัฒนาและความรุนแรงของมะเร็ง และการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาของมะเร็ง นอกจากนี้, ctDNA ยังช่วยให้การรักษามีความแม่นยำและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ลดความจำเป็นในการใช้วิธีการตรวจที่มีความรุกราน และช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีที่สุด

 

ความแตกต่างระหว่าง Liquid Biopsy และ Circulating Tumor DNA (ctDNA)

 

หัวข้อ

Liquid Biopsy

Circulating Tumor DNA (ctDNA)

ความหมาย

การตรวจวิเคราะห์สารพันธุกรรมหรือชีวโมเลกุลในของเหลวของร่างกาย เช่น เลือด ปัสสาวะ หรือน้ำไขสันหลัง เพื่อวินิจฉัยและติดตามโรคมะเร็ง

DNA ที่เซลล์มะเร็งปล่อยออกมาและพบได้ในกระแสเลือดของผู้ป่วยมะเร็ง

สิ่งที่ตรวจวิเคราะห์

- Circulating Tumor DNA (ctDNA)
- Circulating Tumor Cells (CTCs)
- Extracellular Vesicles (EVs)
- MicroRNA (miRNA)
- โปรตีนที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง

DNA ที่มาจากเซลล์มะเร็งโดยตรง ซึ่งมีการกลายพันธุ์ที่สะท้อนลักษณะเฉพาะของมะเร็ง

วัตถุประสงค์

ใช้เพื่อตรวจจับ ติดตาม และพยากรณ์มะเร็งในหลายรูปแบบ รวมถึงการเลือกแนวทางการรักษา

ใช้เป็นตัวบ่งชี้เฉพาะของเซลล์มะเร็งในการตรวจคัดกรอง วินิจฉัย และติดตามการรักษา

แหล่งที่มา

สามารถเก็บตัวอย่างจากของเหลวในร่างกายหลายประเภท เช่น เลือด น้ำไขสันหลัง หรือปัสสาวะ

ส่วนใหญ่มาจากเลือด โดยเป็น DNA ที่เซลล์มะเร็งปล่อยออกมา

ความแม่นยำ

ขึ้นอยู่กับประเภทของตัวบ่งชี้ที่ตรวจ เช่น CTCs อาจไม่แสดงผลชัดเจนในมะเร็งบางชนิด

มีความแม่นยำสูงในการวิเคราะห์การกลายพันธุ์ของมะเร็ง แต่ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ละเอียดอ่อน

การใช้งานทางคลินิก

- คัดกรองมะเร็ง
- ติดตามผลการรักษา
- พยากรณ์โรค
- วางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล

- วิเคราะห์การกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมของเซลล์มะเร็ง
- ตรวจสอบการดื้อยาของมะเร็ง
- เฝ้าระวังการกลับมาเป็นซ้ำของโรค

 

สรุปความแตกต่าง

Liquid Biopsy เป็นแนวทางกว้างที่ใช้การตรวจวิเคราะห์สารชีวภาพต่างๆ ในของเหลวของร่างกาย เพื่อวินิจฉัยและติดตามโรคมะเร็ง
Circulating Tumor DNA (ctDNA) เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของ Liquid Biopsy ที่เน้นการตรวจหา DNA ของเซลล์มะเร็งที่ไหลเวียนในกระแสเลือด

💡 กล่าวคือ ctDNA เป็นส่วนหนึ่งของ Liquid Biopsy แต่ Liquid Biopsy ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ ctDNA เท่านั้น

 

 ตัวอย่างการศึกษาในมะเร็งเต้านม

 มะเร็งเต้านมเป็นหนึ่งในโรคที่มีความเสี่ยงสูงในผู้หญิงทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งการตรวจพบมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้นและการรักษาที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วย. การรักษาด้วยเคมีบำบัดล่วงหน้า (Neoadjuvant chemotherapy) เป็นวิธีหนึ่งที่มีการใช้ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกก่อนการทำการผ่าตัด. อย่างไรก็ตาม, การทำนายว่าผู้ป่วยจะตอบสนองต่อการรักษานั้นได้หรือไม่นั้นยังเป็นเรื่องที่ท้าทาย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักวิจัยได้หันมาใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น liquid biopsies และ multiparametric MRI เพื่อช่วยในการทำนายการตอบสนองต่อการรักษา งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์ในการศึกษาความสามารถของ liquid biopsies และ multiparametric MRI ในการทำนายการตอบสนองต่อการเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม

 

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์หลักในการประเมินความสามารถของเทคนิค liquid biopsies และ multiparametric MRI ในการทำนายการตอบสนองต่อเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม. โดยคาดหวังว่าการใช้เทคนิคเหล่านี้ร่วมกันจะช่วยให้สามารถประเมินผลการรักษาได้แม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การปรับแผนการรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การใช้เทคนิค liquid biopsies ยังสามารถช่วยตรวจจับสารพันธุกรรมจากเซลล์มะเร็งที่หลุดออกจากมะเร็งเต้านมในกระแสเลือด ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องได้รับการตรวจที่มีการรุกราน (invasive) มากเกินไป ในขณะที่ multiparametric MRI สามารถใช้ในการประเมินลักษณะทางกายภาพของเนื้องอกและการเปลี่ยนแปลงของเนื้องอกที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษา

 

วิธีการวิจัย

การวิจัยนี้เป็นการศึกษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ผู้ป่วยทั้งหมดจะได้รับการทดสอบด้วย liquid biopsy และ multiparametric MRI ที่จะดำเนินการในช่วงเวลาหลายครั้งระหว่างการรักษา

  1. การเก็บตัวอย่างเลือด (Liquid Biopsy)

ในการทดสอบ liquid biopsy ผู้ป่วยจะได้รับการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อทำการตรวจสอบสารพันธุกรรมที่สามารถตรวจพบได้ในกระแสเลือด สารพันธุกรรมนี้สามารถมาจากเซลล์มะเร็งที่หลุดออกจากเนื้องอกในเต้านม นักวิจัยจะวิเคราะห์ข้อมูลนี้เพื่อหาเครื่องหมายทางพันธุกรรมที่สามารถทำนายได้ว่าเนื้องอกจะตอบสนองต่อการเคมีบำบัดหรือไม่

  1. การถ่ายภาพด้วย Multiparametric MRI

Multiparametric MRI จะช่วยให้สามารถประเมินสภาพของเนื้องอกในหลายมิติ ทั้งขนาด ความหนาแน่น และการไหลเวียนเลือดในเนื้องอก โดยการใช้เทคนิคนี้ แพทย์สามารถตรวจสอบการหดตัวหรือการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ของเนื้องอกได้ในระหว่างการรักษา ซึ่งจะช่วยให้การทำนายการตอบสนองต่อการรักษามีความแม่นยำยิ่งขึ้น

  1. การเปรียบเทียบผล

เมื่อได้ข้อมูลจากทั้งสองเทคนิค นักวิจัยจะทำการเปรียบเทียบระหว่างการทำนายจาก liquid biopsy และ multiparametric MRI กับผลลัพธ์จริงหลังการรักษา ผลลัพธ์จะช่วยให้สามารถประเมินได้ว่าเทคนิคใดมีความแม่นยำสูงสุดในการทำนายการตอบสนองต่อเคมีบำบัด

ผลลัพธ์ที่ได้

ผลการวิจัยพบว่า การใช้ liquid biopsies ร่วมกับ multiparametric MRI สามารถทำนายการตอบสนองต่อการเคมีบำบัดได้อย่างแม่นยำ ผู้ป่วยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมใน liquid biopsy และแสดงการหดตัวของเนื้องอกใน multiparametric MRI มักจะตอบสนองต่อการรักษาได้ดี การทำนายผลเช่นนี้ช่วยให้แพทย์สามารถปรับการรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคนได้

สรุปผล

การทดสอบ liquid biopsies และ multiparametric MRI เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพในการทำนายการตอบสนองต่อการเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม การใช้เทคนิคทั้งสองร่วมกันสามารถเพิ่มความแม่นยำในการประเมินการตอบสนองต่อการรักษาด้วยการตรวจสอบข้อมูลทางพันธุกรรมจากเลือดและข้อมูลจาก MRI แพทย์สามารถตัดสินใจในการปรับแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การแปลผลและข้อเสนอแนะ

จากผลการวิจัยนี้, มีความเป็นไปได้ที่การใช้ liquid biopsy และ multiparametric MRI จะสามารถช่วยให้การรักษามะเร็งเต้านมมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับผู้ป่วย การใช้เทคนิคเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการตรวจหรือการรักษาที่รุกราน และสามารถติดตามผลการรักษาได้ในระยะเวลาที่สั้นกว่า

การศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคเหล่านี้ในกลุ่มผู้ป่วยที่หลากหลายอาจช่วยเสริมความเข้าใจในเรื่องของการทำนายการตอบสนองต่อการรักษามะเร็งเต้านมได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ให้มีความแม่นยำสูงสุดยังสามารถทำให้การรักษามะเร็งเต้านมในอนาคตมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

Liquid Biopsy บนเทคโนโลยี MassARRAY

  1. การตรวจวิเคราะห์ ctDNA จาก Liquid Biopsy โดยใช้ MassARRAY

    • Liquid Biopsy ช่วยเก็บตัวอย่าง ctDNA จากเลือด

    • MassARRAY ใช้ตรวจหาการกลายพันธุ์ของยีนใน ctDNA ที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง

    • ช่วยให้แพทย์สามารถเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย (Personalized Medicine)

  2. MassARRAY ช่วยให้ Liquid Biopsy มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

    • สามารถวิเคราะห์ DNA ที่มีปริมาณน้อยจาก Liquid Biopsy ได้อย่างละเอียด

    • ตรวจจับการกลายพันธุ์ที่สำคัญ เช่น EGFR, KRAS, BRAF, PIK3CA ซึ่งเกี่ยวข้องกับมะเร็งหลายชนิด

    • วิเคราะห์ข้อมูลได้รวดเร็ว ลดระยะเวลาการรอผล

  3. การนำไปใช้ทางคลินิก

    • ใช้ Liquid Biopsy + MassARRAY เพื่อตรวจจับการกลายพันธุ์ของมะเร็งปอด, มะเร็งเต้านม, มะเร็งลำไส้ใหญ่ ฯลฯ

    • ใช้ติดตามการพัฒนาของโรค และดูว่าผู้ป่วยมีการดื้อยาหรือไม่

    • ช่วยเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสม เช่น การใช้ยามุ่งเป้า (Targeted Therapy)

 อ้างอิง

Elazezy, M., & Joosse, S. A. (2018). Techniques of using circulating tumor DNA as a liquid biopsy component in cancer management. Computational and structural biotechnology journal16, 370-378.

 

Maneesawan Dansawan